งานหนักแต่ไม่ทิ้งการเรียน เปิดภาพ ‘อนันต์ ไมค์ทองคำ’ ในชุดนักศึกษา กลับไปเรียนเพื่อพ่อแม่
เป็นขวัญใจแม่ยกจริงๆ สำหรับหนุ่มน้อย “อนันต์ ไมค์ทองคำ” หรือ อนันต์ อาศัยไพรพนา หนุ่มศิลปินนักร้องเสียงดี ที่เป็นชนเผ่าปกาเกอะญอ ได้มาประกวดร้องเพลงทำตามความฝัน
โชว์พลังเสียงแจ้งเกิดจากการไมค์ทองคำ จนได้รับรางวัลชนะเลิศ และมีผลงานเพลงเป็นของตนเอง หนุ่มน้อย อนันต์ ไมค์ทองคำ เป็นคนไทยชนเผ่าปกาเกอะญอหรือกะเหรี่ยง
อาศัยอยู่ในแถบพื้นที่สูงของหมู่บ้านแม่ตอคี อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ในหมู่บ้านมีผู้อยู่อาศัยจำนวนน้อยมาก ทั้งหมู่บ้านมีทั้งหมด 5 หลังคาเรือน ชีวิตของเขาแต่ก่อนเขายอมรับว่าลำบากพอสมควร เพราะไฟเข้าไม่ถึง ใช้เทียนไข
หรือติดฟืนเอา น้ำไม่มีใช้ แถมยังต้องเดินไปโรงเรียนถึง 17 กิโลเมตร ต่อมา อนันต์ ไมค์ทองคำ ได้เงินรางวัลมา ด้วยความที่เขาเป็นลูกที่กตัญญูมากๆ
จึงมีแต่คนรักและเมตตาเขา ทำให้มีแฟนคลับอย่างล้นหลาม มีงานไม่เว้นวัน ด้วยที่อนันต์เห็นถึงความลำบากของครอบครัวแต่ก่อน เจ้าตัวจึงตัดสินใจที่จะสร้างบ้านหลังใหญ่ให้พ่อแม่
ก่อนหน้านี้ อนันต์ ไมค์ทองคำ เคยโดยกระแสวิพากษ์วิจารณ์ใน ด้ า น ล บ ว่าเป็นคนกระเหรี่ยงพูดไม่ชัด และยังโดน เ ห ยี ย ด หยามอย่างแรง แต่หนุ่มอนันต์ก็ไม่ย่อท้อ
ขอทำตามความฝันต่อไป แถมยังมีแฟนๆเข้ามาให้กำลังใจอนันต์ให้สู้ต่อไปอีกด้วย ปัจจุบัน อนันต์ ก็ได้กลับบ้านพร้อมลงภาพกิจวัตรประจำวัน รวมถึงทำคลิปคัฟเวอร์เพลงที่เขาตัดต่อเองให้แฟนๆได้ติดตาม
และล่าสุดในโอกาสที่เรียนแล้ว นัน อนันต์ เองก็ได้โชว์ภาพที่เขาเข้าเรียนวันแรกของเทอม และรูปเพื่อนๆ ในชั้นเรียนที่วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น ซึ่งในระหว่างที่เรียนทุกคนได้สวมหน้ากาก
เพื่อรับมาตรการณ์ในปัจจุบัน ที่ยังคงสร้างความกังวลในเวลานี้ เมื่อแฟนๆ ได้เห็นโพสต์ของนัน หลายๆ คนก็พร้อมใจกันส่งข้อความให้กำลังใจเขาในการเรียนมากกว่า 600 คอมเมนต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว และหลายๆ คนก็เล่าว่าพวกเขาจะรอดูความสำเร็จของหนุ่ม นัน อนันต์
ก้มตา ขีดเขียน ทำข้อสอบไฟนอลวันแรก ด้วยความตั้งอก ตั้งใจ ด้วยความมีสมาธิ มีภาพนั่งยิ้มกับข้อสอบด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้อสอบที่อาจารย์ที่เคารพออกมาทดสอบศิษย์ไมค์ทองคำนั้นมันจิหมูไปหรือเปล่า น้องนัน ของแม่เลยยิ้มหวานแบบนั้น
ต้องบอกเลยว่านอกจากจะเป็นนักร้องแล้วก็ไม่เคยจะทิ้งการเรียนเลยสักครั้ง ต้องบอกว่าน้องนั้น ตั้งใจทำงานและเรียนไปพร้อมๆกันเลย ก่อนหน้านี้ หนุ่มนันเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า
มีครั้งหนึ่งที่แม่ของนันไม่สบาย และนันต้องแบกแม่ไปที่หมู่บ้านหนึ่ง เพื่อต่อรถไปยังรพ. แต่นันไม่อยากเสียแม่ไป จึงต้องทำให้เต็มที่ ตอนที่แบกแม่ นันก็กลัวว่าจะเสียแม่ไป
เพราะแม่ไม่ไหวจริง ๆ หากไม่พาแม่ไปรพ. แม่ก็อาจจะจากไปจริง ๆ ซึ่งสิ่งที่นันต้องการคือถนนเข้าบ้าน ซึ่งอยากได้มากกว่าไฟฟ้าเสียอีก ในอดีตที่บ้านเลี้ยงสัตว์ และนันก็หาของป่าขาย และทั้งครอบครัว ก็มีนันคนเดียวที่ได้เรียนหนังสือ นันต้องเดินเป็นระยะทางกว่า 17 กม. เพื่อไปเรียน
ซึ่งนันเองก็ต้องยอมรับมันให้ได้ “ผมไม่ได้เสียใจที่เกิดมาลำบาก แต่ดีใจมากกว่าที่ได้เกิดมาเป็นบุตรของพ่อและแม่ ถึงแม้บ้านผมจะไม่มีไฟฟ้าใช้ แค่ได้อยู่กับพ่อและแม่ ได้ร้องเพลง ได้อยู่กับสิ่งที่ผมรักก็มีความสุขแล้ว” หนุ่มนันได้กล่าวไว้